ทองคำและค่าความบริสุทธิ์กับเรื่องที่คุณควรรู้
ทองคำ (Gold) เป็นโลหะมีค่าที่มีคุณสมบัติเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นความงาม ทนทาน และสามารถเก็บรักษาได้เป็นเวลานานโดยไม่เสียสภาพหรือเป็นสนิม จึงได้รับความนิยมในการนำไปใช้ทำเป็นเครื่องประดับและเป็นทรัพย์สินมีค่าในการลงทุน นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมในด้านศิลปะและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งทองคำที่เราพบเห็นในท้องตลาดนั้นมีการแบ่งระดับความบริสุทธิ์เป็นหลายระดับ โดยใช้หน่วยเรียกว่า “กะรัต” หรือย่อเป็น “K” วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับทองคำและระดับความบริสุทธิ์ให้มากขึ้น
K คืออะไร?
ตัวอักษร “K” ย่อมาจากคำว่า “Karat” (กะรัต) เป็นหน่วยวัดค่าความบริสุทธิ์ของทองคำ โดยแบ่งออกเป็น 24 ส่วน ซึ่งทองคำบริสุทธิ์ที่สุดจะถูกเรียกว่า “24K” หรือ 24 Karat (กะรัต) หมายถึงทองคำที่มีความบริสุทธิ์ 99.9% ส่วนทองคำที่มีตัวเลข K ต่ำกว่า 24 จะมีส่วนผสมของโลหะอื่นๆ เพิ่มเข้ามาเพื่อเพิ่มความแข็งแรง โดยสามารถแบ่งค่าความบริสุทธิ์ตาม K ได้ดังนี้
24K : ทองคำบริสุทธิ์ 99.99%
23K : ทองคำบริสุทธิ์ 96.50%
22K : ทองคำบริสุทธิ์ 91.70%
21K : ทองคำบริสุทธิ์ 84.50%
18K : ทองคำบริสุทธิ์ 75.00%
14K : ทองคำบริสุทธิ์ 58.30%
10K : ทองคำบริสุทธิ์ 41.60%
9K : ทองคำบริสุทธิ์ 37.50%
8K : ทองคำบริสุทธิ์ 33.30%
ราคาทองคำในแต่ละ K
ราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของ K ยิ่ง K สูง ทองคำก็ยิ่งบริสุทธิ์และมีราคาสูงขึ้น โดยราคาทองคำจะถูกกำหนดโดยตลาดและอัตราการซื้อขายทองคำในช่วงเวลานั้น ๆ ราคาทองคำที่พบในประเทศไทยส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 96.5% (22K) และ 99.99% (24K) ซึ่งราคาจะอ้างอิงตามตลาดโลกเป็นหลัก
ทอง 96.5% (22K)
ราคาจะต่ำกว่าทอง 99.99% แต่ยังคงมีความบริสุทธิ์มากพอที่จะนำไปใช้ทำเครื่องประดับและลงทุนได้
ทอง 99.99% (24K)
เป็นทองคำบริสุทธิ์ที่สุดที่สามารถลงทุนได้และเป็นที่นิยมในตลาดทองคำโลก
ร้านทองรับซื้อทองคำกี่ K ขึ้นไป?
ส่วนใหญ่แล้วร้านทองในประเทศไทยจะรับซื้อทองคำที่มีค่าความบริสุทธิ์ตั้งแต่ 96.5% ขึ้นไป (22K หรือมากกว่า) ซึ่งจะมีราคาประมาณตามตลาดในช่วงนั้น โดยสามารถนำทองคำมาขายคืนหรือแลกเปลี่ยนได้ตามน้ำหนักทองคำและค่าความบริสุทธิ์
ทองแท้ดูอย่างไร?
การตรวจสอบทองแท้สามารถทำได้หลายวิธี เช่น:
1. การดูตราประทับ : ทองแท้จะมีตราประทับแสดงค่าความบริสุทธิ์ของทองคำ เช่น 24K, 22K, 18K เป็นต้น
2. การทดสอบด้วยแม่เหล็ก : ทองแท้จะไม่ดูดกับแม่เหล็ก เนื่องจากทองคำเป็นโลหะที่ไม่ถูกดึงดูดด้วยแม่เหล็ก
3. การทดสอบความแข็งแรง : ทองคำบริสุทธิ์ (24K) จะมีความนุ่มกว่าโลหะอื่น ๆ หากเป็นทองคำที่มีค่า K ต่ำ จะมีความแข็งมากขึ้น
4. การตรวจสอบด้วยน้ำกรด : ร้านทองส่วนใหญ่จะใช้น้ำกรดในการตรวจสอบทองคำ เพื่อเช็คว่ามีความบริสุทธิ์จริงหรือไม่
5. การใช้เครื่องตรวจสอบทองคำ : บางร้านทองจะมีเครื่องตรวจสอบค่าความบริสุทธิ์ของทองคำที่สามารถแสดงผลได้อย่างแม่นยำ
ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าและมีความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน การเก็บรักษาทรัพย์สิน หรือเป็นเครื่องประดับ การรู้ถึงค่าความบริสุทธิ์ (Karat) และวิธีการตรวจสอบทองแท้จะช่วยให้คุณมั่นใจในการซื้อขายและการลงทุนมากยิ่งขึ้น